หุ้นเปลี่ยนชื่อ…แล้วไงต่อ (Continue) (7 กรกฎาคม 2560)
ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนชื่อหุ้นมาแล้วทั้งหมดประมาณ 58 ตัว
September 7, 2017, พิมพ์ฝัน เจียรพิพัฒนกุล
คราวที่แล้ว เราลองรวบรวมรายชื่อหุ้นที่มีการเปลี่ยนชื่อในรูปแบบต่างๆ มาให้ผู้อ่านดู พบว่าในช่วง 6 ปีที่ผ่านมามีทั้งหมดประมาณ 58 ตัว โดยหลักการแล้วการเปลี่ยนชื่อหุ้นนั้นไม่สามารถบอกอะไรได้มากเกี่ยวบริษัทนั้นๆ แต่พฤติกรรมการเปลี่ยนชื่อต่างหากที่สามารถสะท้อนความโปร่งใสของบริษัทในระยะยาวได้
เราจึงแนะนำให้ระวังหุ้นที่เปลี่ยนชื่อจากเดิมไปมากจนไม่มีภาพลักษณ์ชื่อเก่าอยู่เลย และหากต้องการเก็งกำไรในหุ้นตัวนั้นๆ ก็ให้ลองไปศึกษาพื้นฐานดูเพิ่มเติมเพื่อจะได้รู้ที่มาที่ไปของหุ้นนั้นๆ และดูว่าสาเหตุการเปลี่ยนชื่อมีนัยยะแอบแฝงหรือไม่
เป็นเรื่องปกติที่ราคาหุ้นมีความผันผวนอยู่อยู่ตลอดเวลา ในที่นี้อยากจะย้ำไว้ก่อนว่าเราไม่ควรที่จะเอาเวลาใดเวลาหนึ่งมาเป็นบรรทัดฐานตายตัวว่าหุ้นตัวนี้ถือว่าให้ผลตอบแทนดีหรือไม่ดี เพราะขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้นที่เป็นตัวตั้งกับจุดสุดท้ายของการเปรียบเทียบ ต่างหุ้นก็ต่างวาระ ต่างเหตุและปัจจัย การประกอบกันของเวลา ราคา พื้นฐานของบริษัทจะมีการสะท้อนออกมาในรูปแบบที่ต่างกัน นักลงทุนต้องนำจุดยืนของตัวเองมาประกอบด้วยว่าอยู่จุดไหน เพราะข้อมูลที่ผ่านไปแล้วคือ After the fact ใครๆก็สามารถอ้างได้ บทความนี้ก็แสดงออกมาเพียงมิติเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นมิติของการยกจุดเริ่มต้นในมุมของผู้เขียนมาเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นภาพเล็กๆที่น่าสนใจบางอย่างดังที่จะยกตัวอย่างต่อไป
ในบทความนี้ก็ต่อยอดเพื่อหาดูว่าหลังมีการเปลี่ยนชื่อแล้วพฤติกรรมราคาเป็นอย่างไรบ้าง และก็ไม่ได้หมายความว่า การเปลี่ยนชื่อกับพฤติกรรมราคาหุ้นมีความสัมพันธ์กันในทิศทางเดียวกันหรือตรงกันข้าม เพียงแต่ว่าหากตัวใดที่แสดงผลตอบแทนที่ดีให้เห็น ถ้ามีปัจจัยพื้นฐานรองรับเราก็สามารถที่จะติดตามต่อได้ และอาจจะได้พบเจอกับหุ้นเล็กๆที่น่าสนใจเข้าลงทุน
วันนี้เราลองมาดูเพิ่มเติมกันว่าหลังจากแต่ละตัวที่มี่การเปลี่ยนชื่อ (จากวัน Effective date) มีการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างไร โดยในที่นี้จะขอไม่กล่าวถึงหุ้น
1. ไม่ได้ซื้อขายในตลาดแล้ว (11ตัว) AJA AQ CIMBI POLAR RHBS SMG TWS VGM VI WORLD WR
2. มีการเปลี่ยนพาร์ (22 ตัว) ACC AEC AF AJA AQ AQUA BDMS BIG DCORP DIGI EFORL GEL GSTEL NEWS POLAR S TH THE TU VI WORLD WR (ตัวอักษร Bold คือหุ้นที่ซ้ำกับข้อที่ 1)
3. หุ้นที่เคยถูก Rehabilitation (หุ้นฟื้นฟูกิจการ) แล้วเพิ่งกลับเข้ามาเทรดใหม่ (4 ตัว) AQ BIG MPG PK (ตัว Bold คือซ้ำกับข้อที่ 1 และ 2)
ที่จะไม่กล่าวถึงนั้นเพราะหุ้นที่เหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงของราคาไม่ปกติและมีรายละเอียดเฉพาะตัวที่ต้องไปดูเพิ่มเติม จึงทำให้เหลือหุ้นเพียง 28 ตัว จาก 58 ตัวที่สามารถนำการเปลี่ยนแปลงของราคามาศึกษาเพิ่มเติมได้ โดยหากราคาหุ้นสะท้อนในทางบวกเราก็จะได้ไปดูเพิ่มเติมว่าบริษัทนั้นมีประเด็นอะไรน่าสนใจ หรือหากราคาหุ้นสะท้อนในทางลบก็จะได้หาเหตุผลว่าสาเหตุมาจากอะไร
หุ้นที่ผลตอบแทนเป็นบวกหลังวัน Effective date จนถึงปัจจุบัน (6/9/2017)
หุ้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นลบหลังวัน Effective date จนถึงปัจจุบัน (6/9/2017)
Implication ที่ได้จากข้อมูล price performance หลังหุ้นมีการเปลี่ยนชื่อคือพบว่า WIIK และ BCH ให้ผลตอบแทนมากกว่า 100% ในขณะที่ตัวที่ยังคงติดลบมากๆ บางตัวติดลบมากกว่า -70% ขึ้นไปได้แก่ UPA NEWS AMARIN FER เหตุผลอะไรที่เป็นแรงส่งดันหุ้นให้เป็นบวก และเหตุผลอะไรที่ผลักไสไล่ส่งหุ้นให้ลบ ซึ่งเหตุผลเบื้องหลังอาจจะเกี่ยวและอาจจะไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อก็ได้ โดยอยากจะขอตัวอย่างหุ้น WIIK (ติดบวกเยอะมาก) และหุ้น UPA (ติดลบหนักมาก) เราจะลองมาหาคำตอบกัน หรือหากใครพบเจอว่าหุ้นตัวใดน่าสนใจเป็นพิเศษและมีความสงสัยว่าคิดถูกหรือไม่ ข้อมูลอะไรตกหล่นไปรึเปล่าก็ลองแนะนำหรือสอบถามเข้ามาได้ (inbox ใน Facebook) เรายินดีให้ความรู้และจะช่วยหาข้อมูลอย่างเต็มความสามารถ